หากไม่รู้จักปล่อยวาง
ก็จะว้าวุ่นเป็นทุกข์อยู่ทุกขณะจิต
หายใจเข้าก็ทุกข์ หายใจออกก็ทุกข์
นั่งนิ่งๆก็เป็นทุกข์ นอนตากแอร์ก็เป็นทุกข์
ทุกข์์์.....ตลอดเวลา
คิดดูสิว่า .............ถ้าทุกคนต้องพูดให้ถูกใจเรา
ทุกคนต้องทำให้ถูกใจเรา
เราจึงจะมีความสงบสุข เรา...จึงจะสบาย
แล้วมีไหมคนทั้งโลกที่ว่า ไม่มี...ไม่มีหรอก
ไม่มีใครเอาอกเอาใจใครได้ตลอดเวลา
และทำได้ดีอย่างสม่ำเสมอ...เพื่อเรา
ไม่มีหรอก
พระพุทธองค์ตรัสสอนเรื่องโลกธรรม ๘
ว่า....................
ความหมายของโลกธรรม 8โลกธรรม 8 หมายถึง เรื่องของ
โลก
ที่มีอยู่ประจำกับชีวิต สังคมและโลกของมนุษย์
เป็นความจริงที่ทุกคนต้องประสบด้วยกันทั้งนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
ข้อแตกต่างคือ ใครประสบมาก ประสบน้อย
...ช้าหรือเร็ว
โลกธรรมแบ่งออกเป็น 8 ชนิด
จำแนกออกเป็น 2 ฝ่าย
ควบคู่กันและมีความหมายตรงข้ามกัน คือ
1. โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ
ฝ่ายที่มนุษย์พอใจมี 4 เรื่อง คือ- ได้ลาภ หมายความว่า ได้ผลประโยชน์
ได้ทรัพย์สินเงินทอง ได้บ้านเรือนหรือที่สวน ไร่นา
- ได้ยศ หมายความว่า
ได้รับแต่งตั้งให้มีฐานันดรสูงขึ้น ได้ตำแหน่ง ได้อำนาจเป็นใหญ่เป็นโต
- ได้รับสรรเสริญ คือ ได้ยิน ได้ฟัง
คำสรรเสริญคำชมเชย คำยกยอ
- ได้สุข คือ ได้ความสบายกาย สบายใจ
ได้ความเบิกบาน ร่าเริง ได้ความบันเทิงใจ 2. โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ
ฝ่ายที่มนุษย์ไม่พอใจมี 4 เรื่อง คือ- เสียลาภ หมายความว่า ลาภที่ได้มาแล้วเสียไป
- เสื่อมยศ หมายถึง ถูกลดความเป็นใหญ่
ถูกถอดออกจากตำแหน่ง ถูกถอดอำนาจ
- ถูกนินทา หมายถึง ถูกตำหนิติเตียนว่าไม่ดี
มีใครพูดถึง ความไม่ดีของเราในที่ลับหลัง
เรียกว่าถูกนินทา
- ตกทุกข์ คือ ได้รับความทุกข์ทรมานกายทรมานใจ
โลกธรรม 8 มีมา กว่า 2600 ปีแล้ว
แต่คนเราทุกวันนี้
ทำเป็นลืม...ไม่รู้จัก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น