เล่า ( เรื่องพระสงฆ์ )...สู่กันฟัง


หลายวันก่อน... 
ได้สนทนาธรรมกับพระสมุห์ท่านหนึ่่ง 
 แรกๆก็คุยเรื่องธรรมทั่วๆไป มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง
มาลงเอยที่คำถาม " ทำไมเดี๋ยวนี้พระสงฆ์ ถึง ห่างไกล พระธรรมคำสั่งสอนของพระศาสดา "
หลายคำตอบ มากมายความคิดเห็นที่ต่างคนต่างยกขึ้นมา
เพื่อประกอบ เพื่อแอบอ้าง ในการประกอบเหตุผล
ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม ทั้งเรื่องเทคโนโลยี ฯลฯ
สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า..
พระสงฆ์ ( ที่ตั้งใจบวชศึกษาพระธรรม ) บวชใหม่
ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นพระสงฆ์ในอุดมคติ
จึงพยายามศึกษาหาความรู้ความเข้าใจ ในพระธรรมปิฏก
แต่เมื่อนานวัน ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ กลับยิ่งห่างไกลพระธรรมวินัย มากเท่านั้น
คือยิ่งศึกษามาก ยิ่งรู้มาก กิเลสก็เพิ่มมากขึ้น...มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
เพราะระบอบการปกครองของคณะสงฆ์เอง ที่ " เอื้อ " แถม " บังคับ " กลายๆให้ต้องเป็นอย่างนั้น
พระเถรานุเถระแต่ละลำดับชั้น กว่าที่จะมาถึงยังที่ๆยืนอยู่ ไม่ต่างอะไรกับระบบราชการไทย
เมื่อเป็นแบบนี้ จึงต้องละทิ้งอุดมการณ์ไว้ข้างๆตัว
ท่านเปรียบเปรยให้ฟังว่า 
พระสงฆ์เหมือนยืนอยู่บนที่สูง 
ญาติโยมอยู่ข้างล่าง
ต่างคนต่างก็มีภาระหน้าที่ๆจะต้องกระทำ แต่ไม่ทิ้งกัน เกื้อกูลกันตลอดเวลา
และ...ในขณะที่ญาติโยม กำลังเดินทางขึ้นที่สูง
เพื่อมาสักการะพระสงฆ์ หวังเป็นที่พึ่งพิงทางใจ
ตลอดทางที่เดินผ่าน แต่ละขั้นบันใด ที่สูงลิ่ว
ระหว่างนั้นญาติโยมก็ปลดเปลื้องภาระ หน้ากาก หัวโขน เหล่านั้นทิ้ง  ปล่อย...วาง
พระสงฆ์ เห็นสิ่งเหล่านั้นก็ลงมาเก็บด้วยความเสียดาย ด้วยความหวังได้
แก้วแหวน เงินทอง ลาภยศ สักการะ
บางครั้งถึงกับแก่งแย่งชิงดีกัน เหมือนเปรตขอส่วนบุญ
.........สวนทาง.......................กัน กับญาติโยม ตรงกึ่งกลางทาง
ฝ่ายหนึ่งที่คิดว่าตัวเองต่ำตมเพราะจมอยู่กับกิเลสตัญหาปัญหาชีวิต
พยายามปีนป่ายให้พ้นกองกรรม  แสวงหาโมขธรรม
ฝ่ายหนึ่งที่ผู้คนเห็นว่าเป็นผู้ ละ ....สมถะ.... ล่วงแล้ว... ปลอดอวิชชา
พยายามสะสม แสวงหา มาประดับบารมี
ท่านบอกอย่างนี้ เราก็พิจารณาตาม
...เอิ่ม....???????????????????????????????????


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความโศกย่อมเกิดจากความรัก

ภาพุทธประวัติและบรรยาย

มหาสังฆทาน