เด็กวัดสอนธรรม



                   " เจ้าวัน " เป็นเด็กวัดที่ใครๆมักเข้าใจว่าเป็นคนที่จะว่าไม่เต็มแต่ก็ดูเหมือนเกิน จะว่าขาด ก็ดูเหมือนจะล้น นิสัยเจ้าอารมณ์ ขี้โมโห พระเณรในวัดจะเรียกรับใช้ไม่ได้ เพราะมันเข้าใจว่ามันเป็นเจ้าวัด และมีหลวงพี่ที่เลี้ยงมันเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถว่ากล่าวดุด่าตักเตือนได้ วันหนึ่งใช้ให้ไปซื้อของ มอบเงินให้ตั้งแต่ ตี ๕ กะว่าพอสว่างกลับจากบิณฑบาตรแล้วจะได้ของ จนกระทั่ง ปิณฑบาตรกลับมา ฉันเช้าเสร็จ ทำวัตรเช้าเสร็จ  ( ๗ โมงเช้า ) กำลังจะกวาดลานวัดก็พบเจ้าวันเล่นกับแมวสุดที่รักของเขาอยู่ ก็ถาม

" วัน ใหนล่ะของที่ให้ไปซื้อ "
" .........................( เฉย ).......
" วัน...ใหนล่ะของที่ให้ไปซื้อ " ย้ำ เสียงแน่นขึ้น
" เอ๊...หลวงพี่นี่ ไม่เห็นหรือว่าไม่ว่าง ตามีก็ดูสิ แยกร่างได้ที่ใหน?เล่า " หันมาตวาดเราแว๊ดๆ ตาเขียวปั๊ด
" ????????????????????"

                   เจ็บใจเป็นที่สุด หนอยเอ็งนะเอ็ง. มาด่าเราแต่เช้า เอาเหอะทีเอ็งไม่ว่า ก็เลยเรียกโยมที่รู้จักไปซื้อมาให้ ( คือร้านค้าเดิน ๕ นาทีถึง )
                   หลายครั้งแล้วที่มันเป็นแบบนี้ อารมณ์ดี มันก็จะมาคลอเคลีย ยิ่งใกล้วันศุกร์( มีตลาดนัด )มันยิ่งเห็นเราเป็นพ่อคนหนึ่งเลยทีเดียว คอยดูแลรับใช้เอาอกเอาใจไม่ห่าง
                   วันหนึ่ง เจ้าวันมาขอตังค์ไปเที่ยวตลาดนัด เราก็กะไม่ให้มัน เพราะต้องการดัดนิสัยปากไม่ดี นิสัยขี้โมโห แต่พอมันมายิ้มแป้นแล้น หัวร่อหน้าเป็น แบมือขอเงิน ก็อดที่จะควักให้มันไม่ได้
                   ก็...เจ้าวันคนที่เราคิดว่ามันไม่เต็ม มันล้น มันลืมไปแล้วว่ามันได้พูดอะไรทำอะไร ทั้งดีหรือไม่ดีไปจนสิ้น มันไม่แบกทั้งสุข ทั้งทุกข์ ไม่แบกอดีต ไม่แบกอนาคต มันมีเพียงปัจจุบัน เราเสียอีกที่ยังลืมไม่ได้ เราเสียอีกที่ยังแบกคำพูดมัน ยังผูกใจเจ็บมันอยู่ ทั้งๆที่เรื่องมันผ่านมาแล้ว มันเลยมาแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว 
                   ใครกันแน่ ที่ไม่เต็ม ใครกันแน่ที่ล้น ?.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความโศกย่อมเกิดจากความรัก

ภาพุทธประวัติและบรรยาย

มหาสังฆทาน